การใช้โปรแกรม Telnet ขั้นพื้นฐาน ( Telnet ) |
ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมักมีความต้องการใช้โปรแกรมหรือข้อมูลซึ่งเก็บอยู่ในคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น นอกเหนือไปจากเครื่องที่ใช้งานอยู่ด้วยสาเหตุหลาย ๆ ประการนับตั้งแต่โปรแกรมที่ต้องการใช้งานนั้น ไม่สามารถทำงานภายใต้คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่โดยตรง เป็นต้นว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานเป็นเครื่องพีซีที่ใช้ระบบปฏิบัติการ เอ็มเอสดอส แต่ต้องการใช้โปรแกรมซึ่งทำงานด้วยระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ หรือเครื่องที่ใช้งานมีสมรรถนะไม่เพียงพอ ตามที่โปรแกรมต้องการเช่นมีหน่วยความจำไม่พอเพียง เนื้อที่ใช้เก็บข้อมูลจำกัด หรือมีความเร็วในการประมวลผลต่ำ เป็นต้น
เพื่อเอาชนะอุปสรรคดังกล่าวระบบจึงควรมีเครื่องมือให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปขอใช้บริการจาก เครื่องอื่นที่อยู่ในเครือข่าย และให้เครื่องนั้นทำหน้าที่ประมวลผลงาน โดยผู้ใช้ป้อนคำสั่งผ่านคอมพิวเตอร์ของตัวเอง แล้วจึงส่งผลลัพธ์กลับมาแสดงบนหน้าจอ กลไกการทำงานในรูปแบบนี้เรียกว่าการขอเข้าใช้ระบบจากระยะไกล ในอินเทอร์เน็ตมีโปรแกรมหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ให้บริการ เข้าใช้ระบบจากระยะไกลและรู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อของโปรแกรม เทลเน็ต (Telnet) นอกไปจากการใช้ Telnet เพื่อขอเข้าใช้ระบบ จากระยะไกลซึ่งผู้ใช้จำเป็นต้องมีชื่อบัญชี บนเครื่องที่ขอเข้าใช้อยู่ก่อน ก็ยังมีบริการสาธารณะอีกมากมายในอินเทอร์เน็ตที่สามารถ ใช้บริการด้วย Telnet โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีผู้ใช้บนโฮสต์นั้น ตัวอย่างของบริการนี้ได้แก่การค้นข้อมูลจากกระดานข่าว (Bulletin Board System) การค้นหาเซอร์ฟเวอร์เก็บแฟ้มข้อมูลด้วยโปรแกรมอาร์ชี (Archie)และบริการโกเฟอร์(Gopher) เป็นต้น
1 รู้จักกับเทลเน็ต (Telnet)เพื่อเอาชนะอุปสรรคดังกล่าวระบบจึงควรมีเครื่องมือให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปขอใช้บริการจาก เครื่องอื่นที่อยู่ในเครือข่าย และให้เครื่องนั้นทำหน้าที่ประมวลผลงาน โดยผู้ใช้ป้อนคำสั่งผ่านคอมพิวเตอร์ของตัวเอง แล้วจึงส่งผลลัพธ์กลับมาแสดงบนหน้าจอ กลไกการทำงานในรูปแบบนี้เรียกว่าการขอเข้าใช้ระบบจากระยะไกล ในอินเทอร์เน็ตมีโปรแกรมหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ให้บริการ เข้าใช้ระบบจากระยะไกลและรู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อของโปรแกรม เทลเน็ต (Telnet) นอกไปจากการใช้ Telnet เพื่อขอเข้าใช้ระบบ จากระยะไกลซึ่งผู้ใช้จำเป็นต้องมีชื่อบัญชี บนเครื่องที่ขอเข้าใช้อยู่ก่อน ก็ยังมีบริการสาธารณะอีกมากมายในอินเทอร์เน็ตที่สามารถ ใช้บริการด้วย Telnet โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีผู้ใช้บนโฮสต์นั้น ตัวอย่างของบริการนี้ได้แก่การค้นข้อมูลจากกระดานข่าว (Bulletin Board System) การค้นหาเซอร์ฟเวอร์เก็บแฟ้มข้อมูลด้วยโปรแกรมอาร์ชี (Archie)และบริการโกเฟอร์(Gopher) เป็นต้น
เทลเน็ตเป็นโปรแกรมประยุกต์สำหรับการเข้าใช้ระบบจากระยะไกลเทลเน็ตช่วยให้ผู้ใช้ในอินเทอร์เน็ตนั่ง ทำงานอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง แล้วเข้าไปใช้เครื่องอื่นที่อยู่ในที่ต่าง ๆ ภายในเครือข่าย เครื่องที่ขอเข้าใช้อาจจะเป็นเครื่องที่อยู่ภายในห้องเดียวกันหรือในตึกเดียวกัน หรือแม้กระทั่งเครื่องใด ๆ ทั่วทุกมุมโลกที่เชื่อมต่อเป็นส่วนหนึ่งของ อินเทอร์เน็ตอยู่ การเข้าใช้ระบบใด ๆ ด้วยเทลเน็ตให้เรียกใช้โดยการพิมพ์คำสั่ง Telnet ตามด้วยชื่อโฮสต์ หรือเลขที่อยู่ไอพีของโฮสต์นั้นตามรูปแบบคำสั่ง
telnet [ชื่อโฮสต์ หรือ เลขที่อยู่ไอพี] |
เช่นคำสั่ง telnet emisc.moe.go.th
ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นการขอใช้โฮสต์ moe.go.th (MOENet)
2 การใช้โปรแกรม Telnet 
1. ดับเบิ้ลคลิกที่ไอค่อน Telnet 2. จะปรากฏหน้าต่างโปรแกรมขึ้นมา 3. คลิกที่เมนู Connect เพื่อติดต่อไปยังศูนย์บริการ 4. เลือกคำสั่ง Remote System….. พิมพ์ ชื่อโฮล์ต หรือ IP Address ของศูนย์บริการเช่น emisc.moe.go.th | ![]() |
![]() | การเข้าใช้ยูนิกซ์มีชื่อเรียกโดยเฉพาะว่า Login ยูนิกซ์จะแสดงข้อความว่าพร้อมที่จะรับการเข้าสู่ระบบโดยแสดงเครื่องหมาย Login : ที่จอภาพดังรูป ที่เครื่องหมาย Login : ผู้ใช้ต้องป้อนชื่อบัญชี แล้วกด Enter จากนั้นให้ใส่รหัสผ่านอีกขั้นหนึ่ง (จะไม่เห็นรหัสผ่าน) เสร็จแล้วให้กด Enter หากตรวจสอบแล้วว่าถูกต้อง ก็จะมีเครื่อง $ ซึ่งถือว่าได้เข้าใช้งานระบบแล้ว |
ตัวอย่างข้างต้นแสดงการใช้ Telnet ต่อ เชื่อมไปยังโฮสต์ emisc.moe.go.th เมื่อโปรแกรมตรวจพบโฮสต์ก็ต่อระบบเข้ากับโฮสต์ และรอให้ป้อนชื่อบัญชีผู้ใช้กับรหัสผ่าน ตาม ขั้นตอนเช่นเดียวกับการเข้าใช้ระบบโดยปกติ ต่อจากนั้นผู้ใช้จะสามารถใช้คำสั่ง ที่มีอยู่บนโฮสต์นั้นเสมือนว่าได้นั่งทำงานอยู่ที่โฮสต์นั้นโดยตรง เมื่อออกจากระบบด้วยคำสั่ง logout ก็จะจบการเชื่อมต่อกับโฮสต์ และกลับมาใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเองที่จุดเดิมก่อนการเรียกใช้ Telnet
3 เทลเน็ตทำงานได้อย่างไร
เทลเน็ตเป็นโปรแกรมที่ใช้โปรโตคอลเทลเน็ต ซึ่งเป็นโปรโคอลส่วนหนึ่งของทีซีพี/ไอพี (TCP/IP) รูปแบบการเชื่อมต่อจะเป็นไปตามแบบ ไคลเอ็นต์-เซอร์ฟเวอร์ (Client-Server) โดยคอมพิวเตอร์ระยะไกล ทำหน้าที่เป็นเซอร์ฟเวอร์ และให้บริการจากเครื่องไคลเอ็นต์ ที่เรากำลังใช้งานอยู่ เมื่อใช้คำสั่ง Telnet จากเครื่องไคลเอ็นต์ จะมีการทำงานเกิดขึ้นเป็นขบวนการดังต่อไปนี้
3 เทลเน็ตทำงานได้อย่างไร
เทลเน็ตเป็นโปรแกรมที่ใช้โปรโตคอลเทลเน็ต ซึ่งเป็นโปรโคอลส่วนหนึ่งของทีซีพี/ไอพี (TCP/IP) รูปแบบการเชื่อมต่อจะเป็นไปตามแบบ ไคลเอ็นต์-เซอร์ฟเวอร์ (Client-Server) โดยคอมพิวเตอร์ระยะไกล ทำหน้าที่เป็นเซอร์ฟเวอร์ และให้บริการจากเครื่องไคลเอ็นต์ ที่เรากำลังใช้งานอยู่ เมื่อใช้คำสั่ง Telnet จากเครื่องไคลเอ็นต์ จะมีการทำงานเกิดขึ้นเป็นขบวนการดังต่อไปนี้
- ต่อเชื่อมไปยังเครื่องเซอร์ฟเวอร์ผ่านทีซีพี/ไอพี (TCP/IP)
- รอรับคำสั่งจากแป้นพิมพ์
- แปลงรูปแบบคำสั่งให้อยู่ในรูปมาตรฐานแล้วส่งไปยังเซอร์ฟเวอร์
- รอรับผลลัพธ์จากเซอร์ฟเวอร์ในรูปมาตรฐาน
- แปลงรูปแบบผลลัพธ์เพื่อแสดงบนจอภาพ
เครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งทำหน้าที่เป็นเซอร์ฟเวอร์สามารถให้บริการกับเครื่องไคลเอ็นต์หลากชนิด โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นเครื่องชนิดเดียวกัน หรือมีระบบปฏิบัติการเหมือนกัน เนื่องจากเทลเน็ตเป็นโปรโตคอลในระดับชั้นของการประยุกต์ใช้ การทำงานจะเป็นอิสระ โดยไม่ขึ้นกับฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ใด เราจึงสามารถใช้โปรแกรมเทลเน็ตจากเครื่องได้หลายชนิดไม่ว่าจะเป็น พีซี แมคอินทอช อาตาริ เพื่อต่อไปยังโฮสต์ในระบบต่าง ๆ นับตั้งแต่สถานีงานยูนิกซ์ไปจนกระทั่งถึงเครื่องในระดับเมนเฟรมหรือซูเปอร์คอมพิวเตอร์
4 การใช้งานเทลเน็ตในภาวะคำสั่งตัวอย่างต่อไปนี้แสดงการใช้เทลเน็ตในภาวะรับคำสั่งจากเครื่อง emisc.moe.go.th แล้วจึงใช้คำสั่ง open เพื่อขอเข้าใช้เครื่อง nontri.ku.ac.th ตามด้วยการใช้คำสั่งบางคำสั่ง จากนั้นจึงจบด้วยการออกจาก nontri.ku.ac.th กลับเข้าสู่ emisc.moe.go.th ตามเดิม
$ telnet เรียกโปรแกรม |
telnet > open nontri.ku.ac.th ขอใช้เครื่อง nontri.ku.ac.th Trying … Connected to nontri.ku.ac.th Escape character is ‘ ^ ] ‘ . AIX telnet (cc1) IBM AIX Version 3 for RISC System/6000 ( C ) Copyrights by IBM and by others 1982, 1991. $ logout Connection closed by foreign host. $ |
ยูนิกซ์มีคำสั่งใช้งานรวมกันนับร้อยคำสั่ง แต่ส่วนนี้เป็นการทดลอง จะใช้คำสั่งเบื้องต้นไม่กี่คำสั่ง สำหรับท่านใดที่สนใจมากกว่านี้ ต้องหาหนังสือการใช้คำสั่งยูนิกซ์ศึกษาต่อเอง
ตัวอย่างการใช้คำสั่งยูนิกซ์
1. คำสั่ง date ใช้แสดงวันที่ เวลา
$ date Mon Aug 11 15:58:50 GMT+0700 1997 |
ยูนิกซ์ถือว่าอักขระตัวเล็กและตัวใหญ่แตกต่างกัน คำสั่งในยูนิกซ์โดยปกติแล้วจะใช้ตัวเล็กตลอด หากใช้ตัวใหญ่แล้วจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นดังเช่น
$ DATE DATE: not found |
2. คำสั่ง w ตรวจดูผู้ใช้ในระบบ
$ w 15:59 up 9 days, 5:20, 10 users, load average: 0.42, 0.35, 0.27 User tty from login@ idle JCPU PCPU what monnichu p2 router.moe.go.th 13:38 8 8 -sh sombasuw p4 router.moe.go.th 08:37 -sh anothchi p3 router.moe.go.th 15:43 -sh bhubest p6 203.146.15.32 15:48 1 pine yothisom p7 router.moe.go.th 14:35 3 3 pine daruntha p8 router.moe.go.th 14:24 3 3 slirp noppapiy p9 router.moe.go.th 14:23 13 13 -sh bumrung pa 203.146.15.60 15:58 w |
3. คำสั่ง finger ตรวจดูรายละเอียดผู้ใช้ในระบบ
$ finger Login Name TTY Idle When Office sombasuw Dr.Sombat Suwanpitak *p4 Mon 08:37 Ministry of 2811077 anothchi Miss Anothai Chiech *p3 Mon 15:43 TCSC 2802841 manassai Mr.Manas Saisema *p1 Mon 13:24 jareelim Miss.Jaree Limlamai *p5 Mon 08:26 oca 2470013(411) bhubest Bhubest Thawon p6 1 Mon 15:48 Ministry of 281-7050 yothisom Mr.Yothin Sommano p7 Mon 14:35 daruntha Miss.Darunee Thamapo *p8 Mon 14:24 oca 2470013(409) noppapiy Mr.Noppadol Piyatrap *p9 Mon 14:23 dove 5093654-5 bumrung Bumrung Chiablam pa Mon 15:58 Ministry of 281-7050 |
หากต้องการดูข้อมูลรายละเอียดของผู้ใช้รายใด ให้ใช้คำสั่ง finger ตามด้วยชื่อบัญชี ดังตัวอย่าง
$ finger bumrung Login name: bumrung In real life: Bumrung Chiablam Office: Ministry of, 281-7050 Directory: /disk14/bumrung Shell: /bin/sh On since Aug 11 15:58:47 on ttypa from 203.146.15.60 No Plan. |
4. คำสั่ง ls ใช้แสดงรายชื่อแฟ้มข้อมูลที่มีอยู่
$ ls News exe java mail passwd sblive zip book fox lan mail_old ppt txt dumpster html lansum mbox ppt2 web |
การดูรายชื่อแฟ้มข้อมูลอาจดูรายละเอียดได้ โดยใช้คำสั่ง ls แล้วตามด้วย -l (ขีดแอล) ดังเช่น
$ ls -l total 280 drwxr-xr-x 2 bumrung emisc 512 Jan 13 1997 News drwxr-xr-x 2 bumrung emisc 512 Jan 24 1997 book drwxr-xr-x 3 bumrung emisc 512 Jan 13 1997 dumpster drwxr-xr-x 2 bumrung emisc 512 Feb 12 1997 exe drwxr-xr-x 2 bumrung emisc 1024 Jan 13 1997 fox drwxr-xr-x 4 bumrung emisc 2048 Jul 15 10:43 html drwxr-xr-x 2 bumrung emisc 512 Feb 12 1997 java drwxr-xr-x 3 bumrung emisc 1024 Jan 13 1997 lan drwxr-xr-x 2 bumrung emisc 512 Jan 13 1997 lansum drwx------ 2 bumrung emisc 512 Aug 8 10:33 mail |
รายละเอียดเกี่ยวกับไฟล์ มีดังนี้
ระบบยูนิกซ์เป็นโอเอสที่มีการใช้แฟ้มร่วมกันได้ หากให้สิทธิ์แก่ผู้ใช้อื่น ซึ่งแฟ้มข้อมูลได้กำหนด อักษรเป็น 10 ตัวจัดประเภทออกเป็นกลุ่มๆ ดังนี้ กลุ่มที่ 1 อักษรตัวที่ 1
ระบบยูนิกซ์เป็นโอเอสที่มีการใช้แฟ้มร่วมกันได้ หากให้สิทธิ์แก่ผู้ใช้อื่น ซึ่งแฟ้มข้อมูลได้กำหนด อักษรเป็น 10 ตัวจัดประเภทออกเป็นกลุ่มๆ ดังนี้ กลุ่มที่ 1 อักษรตัวที่ 1
- เครื่องหมายลบ (-) แสดงถึงชื่อนี้เป็นแฟ้มข้อมูลหรือไฟล์
- ตัวอักษรแอล (l) แสดงถึงชื่อนี้เป็นแฟ้มเชื่อมโยงไปแฟ้มข้อมูลอื่น
- ตัวอักษรดี (d) แสดงถึงชื่อนี้เป็นแฟ้มไดเร็คทรอรี่
-rw-r--r-- 1 bumrung emisc 156477 Jul 18 15:41 passwd lrw-r--r-- 1 bumrung emisc 69918 Jul 26 17:57 mbox drwxr-xr-x 2 bumrung emisc 512 Jan 17 1997 zip |
d rwx r-x r-x
กลุ่มที่ 2 (ตัวอักษรที่ 2-4) แสดงเจ้าของแฟ้มหรือผู้สร้างแฟ้มกลุ่มที่ 3 (ตัวอักษรที่ 5-7) ผู้ใช้ในกลุ่มเดียวกับเจ้าของแฟ้ม
กลุ่มที่ 4 (ตัวอักษรที่ 8-10) บุคคลอื่น
- r ให้อ่านแฟ้มได้
- w ให้เขียนแฟ้มได้
- x เรียกใช้งานแฟ้มได้
- - ไม่ให้สิทธิ์ใดๆ
5. คำสั่ง pwd ใช้แสดงตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันให้ทราบ
กรณีที่เปลี่ยนไดเร็คทรอรี่มากๆ ทำให้เกิดความสับสนว่าขณะนี้ อยู่ ณ ตำแหน่งใด สามารถใช้คำสั่ง pwd เพื่อบอกตำแหน่งได้ เช่น
กรณีที่เปลี่ยนไดเร็คทรอรี่มากๆ ทำให้เกิดความสับสนว่าขณะนี้ อยู่ ณ ตำแหน่งใด สามารถใช้คำสั่ง pwd เพื่อบอกตำแหน่งได้ เช่น
$ pwd /disk14/bumrung |
6. คำสั่ง cd ใช้เปลี่ยนไดเร็คทรอรี่ที่อยู่ปัจจุบัน
$ pwd /disk14/bumrung $ cd mail เข้าสู่ไดเร็คทรอรี่ ชื่อ mail $ pwd /disk14/bumrung/mail $ cd .. ออกจากไดเร็คทรอรี่ ชื่อ mail $ pwd /disk14/bumrung $ cd / ออกไปยังไดเร็คทรอรี่แรกสุด (Root Directory) $ pwd / $ |
7. คำสั่ง cp การทำสำเนาแฟ้มข้อมูล
ยูนิกซ์มีคำสั่ง cp (Copy) สำหรับใช้ทำสำเนาแฟ้มใหม่หรือคัดลอกแฟ้ม รูปแบบคำสั่ง cp ให้ป้อนชื่อแฟ้มต้นฉบับและชื่อแฟ้มใหม่ โดยเว้นระหว่างชื่อหนึ่งช่องว่างดังนี้
ยูนิกซ์มีคำสั่ง cp (Copy) สำหรับใช้ทำสำเนาแฟ้มใหม่หรือคัดลอกแฟ้ม รูปแบบคำสั่ง cp ให้ป้อนชื่อแฟ้มต้นฉบับและชื่อแฟ้มใหม่ โดยเว้นระหว่างชื่อหนึ่งช่องว่างดังนี้
$ cp file1 file2 สร้างแฟ้ม file2 จากแฟ้ม file1 $ cp file1 file3 สร้างแฟ้ม file3 จากแฟ้ม file1 |
8. คำสั่ง mv การย้ายแฟ้มข้อมูล
ยูนิกซ์มีคำสั่ง mv (Move) โดยมีรูปแบบเหมือนคำสั่ง cp ให้ป้อนชื่อแฟ้มต้นฉบับและชื่อแฟ้มใหม่ โดยเว้นระหว่างชื่อหนึ่งช่องว่างดังนี้
ยูนิกซ์มีคำสั่ง mv (Move) โดยมีรูปแบบเหมือนคำสั่ง cp ให้ป้อนชื่อแฟ้มต้นฉบับและชื่อแฟ้มใหม่ โดยเว้นระหว่างชื่อหนึ่งช่องว่างดังนี้
$ mv file3 newfile3 เป็นการย้ายแฟ้ม file3 ไปเป็นแฟ้ม newfile3 |
9. คำสั่ง rm การลบแฟ้มข้อมูล
หากต้องการลบแฟ้มข้อมูลให้ใช้คำสั่ง rm (Remove) ตามด้วยชื่อแฟ้ม ข้อระวังคือยูนิกซ์ไม่มีการถามเพื่อยืนยันการลบ เพราะฉะนั้น ต้องแน่ใจก่อนจะทำการลบ รูปแบบมีดังนี้
หากต้องการลบแฟ้มข้อมูลให้ใช้คำสั่ง rm (Remove) ตามด้วยชื่อแฟ้ม ข้อระวังคือยูนิกซ์ไม่มีการถามเพื่อยืนยันการลบ เพราะฉะนั้น ต้องแน่ใจก่อนจะทำการลบ รูปแบบมีดังนี้
$ rm newfile3 เป็นการลบแฟ้ม newfile3 |
ถ้าต้องการลบหลายๆแฟ้มในคำสั่งเดียวกัน ให้ป้อนชื่อแฟ้มต่อเนื่องกัน เช่น
$ rm file1 file2 เป็นการลบแฟ้ม file1 กับ file2 พร้อมกัน |
10. คำสั่ง mkdir การสร้างไดเร็คทรอรี่
คำสั่ง mkdir ใช้สร้างไดเร็คทรอรี่ใหม่ ชื่อไดเร็คทรอรี่ที่ต้องการให้ป้อนต่อท้ายคำสั่งดังนี้
คำสั่ง mkdir ใช้สร้างไดเร็คทรอรี่ใหม่ ชื่อไดเร็คทรอรี่ที่ต้องการให้ป้อนต่อท้ายคำสั่งดังนี้
$ mkdir newdir สร้างไดเร็คทรอรี่ใหม่ชื่อ newdir |
สร้างไดเร็คทรอรี่ 2 ไดเร็คทรอรี่ในคำสั่งเดียวกัน
$ mkdir newdir1 newdir2 สร้างไดเร็คทรอรี่ใหม่ชื่อ newdir1 กับ newdir2 พร้อมกัน |
11. คำสั่ง rmdir การลบไดเร็คทรอรี่
คำสั่ง rmdir (Remove Directory) ใช้ลบไดเร็คทรอรี่ที่ไม่ต้องการออกไป รูปแบบคำสั่งเหมือนกับการสร้างไดเร็คทรอรี่ คือป้อนชื่อไดเร็คทรอรี่ที่ต้องการลบดังเช่น
คำสั่ง rmdir (Remove Directory) ใช้ลบไดเร็คทรอรี่ที่ไม่ต้องการออกไป รูปแบบคำสั่งเหมือนกับการสร้างไดเร็คทรอรี่ คือป้อนชื่อไดเร็คทรอรี่ที่ต้องการลบดังเช่น
$ rmdir newdir ต้องการลบไดเร็คทรอรี่ที่ชื่อ newdir |
6 ข้อควรคำนึงเมื่อใช้เทลเน็ต
ในช่วงที่ระบบมีภาระงานสูงมาก หรือมีผู้เข้าใช้ระบบอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก การขอเข้าใช้ระบบด้วยการเทลเน็ตไปยังเครื่องนั้น อาจไม่สามารถทำได้สำเร็จ ในกรณีดังกล่าวอาจต้องทิ้งช่วงเวลาไว้แล้วทดลองใช้เทลเน็ตใหม่ หรือใช้เทลเน็ตในช่วงเวลาที่ ระบบมีภาระงานต่ำ เครื่องบางเครื่องจะจำกัดระยะเวลาที่เข้าใช้ระบบได้ หรือบันทึกระยะเวลาที่ปล่อยเครื่องว่างไว้โดยไม่ได้ใช้งาน และเมื่อถึงเวลาตามที่กำหนดไว้ก็จะตัดการเข้าใช้ระบบออกไป แต่โดยมารยาทแล้วเมื่อจำเป็นต้องทิ้งเครื่องไว้เป็นระยะเวลานาน ก็ควรจะใช้คำสั่ง logout ออกจากระบบก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเมื่อขอเข้าไปใช้บริการเครื่องที่มีผู้ใช้งานอื่นร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก
ลำดับที่ # [an error occurred while processing this directive]
Copyright &: 2001 Ministry of Education, THAILAND
โดยนายบำรุง เฉียบแหลม นักวิชาการคอมพิวเตอร์
กลุ่มพัฒนาระบบงานคอมพิวเตอร์ ศูนย์สารสนเทศ สป. ศธ.
โทร. 281-9809 , 628-5643 , 628-5644 โทรสาร 281-8218
ติดต่อผู้ดูแลระบบ : bumrung@emisc.moe.go.th
โดยนายบำรุง เฉียบแหลม นักวิชาการคอมพิวเตอร์
กลุ่มพัฒนาระบบงานคอมพิวเตอร์ ศูนย์สารสนเทศ สป. ศธ.
โทร. 281-9809 , 628-5643 , 628-5644 โทรสาร 281-8218
ติดต่อผู้ดูแลระบบ : bumrung@emisc.moe.go.th

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น